กลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วโลกออนไลน์กันอีกแล้ว กับภาพปริศนา-ถามสีอะไร หลังจากที่ปีก่อนมีรูปภาพชุดเดรสยาว ที่ต้องมาเถียงกันว่าเป็นน้ำเงิน-ดำ หรือขาว-ทอง ... คราวนี้มีในรูปของรองเท้าผ้าใบ ที่หลายคนมองว่ามันเป็นสีเทา คาดด้วยเส้นลายสีเขียว ขณะที่อีกหลายคนก็บอกว่า ไม่ๆๆ มันเป็นสีชมพู แล้วคาดด้วยเส้นสีขาวต่างหาก ... ตกลงว่ามันสีอะไรกันแน่ครับ ?
คนที่ใช้สมองซีกซ้าย เป็นหลัก (Logic) จะเห็นเป็นสี เขียว-เทา
จะควบคุมการแสดงออก การคิดเชิงตรรกกะ มีความเป็นเหตุเป็นผล อาชีพความถนัดของคนที่ใช้สมองซีกซ้ายบ่อยๆ เช่น
- การพูดโน้มน้าว จิตใจคน
- การตีความหมาย ของภาษา
- การวิเคราะห์เวลา และความเสี่ยง
- อาชีพที่ต้องใช้การคํานวณ บวก ลบ คูณ หาร ตัวเลข
- การจัดหมวดหมู่ การแยกประเภทสินค้าต่าง ๆ
- ผู้บริหาร ที่ต้องจัดการวางแผนอย่างมีระบบ
- งานที่เกียวข้องกับวิทยาศาสตร์
- นักกีฬา ที่ต้องใช้กล้ามเนื้อแขนและขา
- อาชีพ ที่ต้องใช้ความแม่นยําสูง เช่น แพทย์ วิศวกร
ลักษณะเฉพาะในบุคคลที่ถนัด ใช้สมองซีกซ้าย คือ ส่วนมากมักถนัดการทํางาน ด้วยมือขวา ข้อเสีย ของการใช้สมองซีกซ้ายเพียงด้านเดียวมากเกินไป คือ อาจเป็นคนที่มีความเครียดสูงอยู่ในตัวเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
คนที่ใช้สมองซีกขวา เป็นหลัก (ศิลปิน) จะเห็นเป็นสี ชมพู-ขาว
จะทํางานในในหน้าที่ ตามแนวทางที่สร้างสรรค์ จินตนาการ อารมณ์ความรู้สึก อาชีพ ความถนัดของคน ที่ใช้สมองซีกขวาบ่อยๆ เช่น
- ศิลปะแขนงต่าง ๆ
- งานที่เกี่ยวกับอารมณ์ขัน
- การใช้ภาษาง่าย ๆ ที่ไม่สลับซับซ้อน
- การศึกษาความคิด ในเชิงปรัชญา
- การจัดสวน
- ความสามารถในงานฝีมือ และงานประดิษฐ์
- งานที่เกี่ยวข้อง กับความคิดสร้างสรรค์
- รักการอ่าน การเขียนหนังสือ
- ประเภทศิลปิน ดารา นักแสดง
ลักษณะเฉพาะในบุคคล ที่ถนัดใช้สมองซีกขวา คือ ส่วนมากมักถนัดการทํางาน ด้วยมือซ้าย ข้อเสีย ของการใช้สมองซีกขวา เพียงด้านเดียวมากเกินไป คือ อาจเป็นคนขาดระเบียบ สื่อสารกับคนอื่นไม่ค่อยเข้าใจ
เกิดอะไรขึ้นกับรองเท้าสีปริศนานี้?
ถ้าเราเอาภาพดังกล่าวไปเข้าโปรแกรมอย่าง Photoshop เพื่อเช็คค่าสี คำตอบที่ได้ กลับเป็นสีเทา-เขียว ? .. แต่ถ้าสังเกตดูดีๆ ที่มือของคนที่ถือรองเท้านั้นไว้ จะเห็นว่าสีของมือมันเพี้ยนๆ ออกไปทางอมเขียว ... และถ้าใครลองปรับสีของมือให้กลับเป็นสีธรรมชาติขึ้น รองเท้ากลับจะมาเป็นสีชมพูตามความเป็นจริงอีกครั้ง
คำสรุปของเรื่องนี้ ที่สีรูปรองเท้าเพี้ยนจากสีชมพู-ขาว มาเป็นสีเทา-เขียวได้ ก็เป็นผลมาจากสภาพแสงที่ไม่ค่อยดีในการถ่ายภาพจากการใช้แฟลชในที่มืด รวมทั้งคุณภาพของกล้องเองที่บันทึกสีเพี้ยนไป
แต่ เอ๊ะ แล้วทำไมบางคนที่เห็นเป็นสีชมพูได้ถูกต้องล่ะ ? ... เรื่องนี้ก็อธิบายได้เหมือนกรณีของชุดเดรสเลยนะ ดังนี้
ดวงตาของเรานั้นมีเนื้อเยื่ออยู่ด้านหลัง ที่เรียกว่า เรติน่า (retina) ซึ่งมีเซลล์รับแสง (photoreceptor) อยู่ เซลล์รับแสงจะส่งสัญญาณผ่านระบบประสาทไปยังสมองเพื่อตีความรูปหรือภาพที่เราเห็น เซลล์รับแสงนั้นมี 2 แบบคือแบบแท่ง (rod) และแบบกรวย (cone) เซลล์รับแสงแบบแท่งจะรับภาพแบบกลางคืน ที่เป็นเฉดของสีเทาและความสว่าง ... ขณะที่เซลล์แบบกรวยจะรับภาพแบบกลางวัน ที่เป็นสีสันต่างๆ โดยเซลล์แบบกรวย จะแบ่งเป็น 3 พวก รับแสงที่ความยาวคลื่นต่างกัน หรือก็คือรับสีต่างกัน คือ รับสีเขียว สีแดง สีฟ้า ซึ่งสมองของเราจะประเมินว่าภาพที่เห็นนั้นเป็นสีอะไร ก็จากการผสมกันของสัญญาณที่มาจากเซลล์ทั้ง 3 พวกนี้
ดังนั้น จากการที่กระบวนการรับสัญญาณของเซลล์รับภาพแบบกรวยในแต่ละคนนั้น มีความแตกต่างกันไป ภาพที่ถ่ายออกมาแล้วมี "ความสว่างต่ำ" และ "การเหลือบของสี" อย่างภาพรองเท้านี้หรือภาพชุดเดรสก่อนหน้านี้ ก็จะทำให้สมองแต่ละคนประมวลผลภาพออกมาต่างกันไปด้วย
โดยถ้าสมองของบางคน ตีความภาพนั้นว่ามีแสงสว่างเพียงพอแล้ว ก็มีแนวโน้มที่จะมองภาพรองเท้าไปเป็นสีเทาคาดเขียว (หรือชุดเดรส เป็นสีน้ำเงิน-ดำ) ขณะที่ถ้าสมองของใคร ตีความว่าภาพนี้ยังมืดเกินไป ก็มีแนวโน้มจะมองภาพนั้นให้ชดเชย "แสงสว่าง" มากขึ้น เห็นภาพรองเท้าเป็นสีชมพูคาดขาว (หรือชุดเดรส เป็นสีขาว-ทอง)
ขณะที่การที่ภาพนี้มีสีเหลือบไปในทางฟ้าอมเขียวตั้งแต่แรก สมองของคนที่เซนซิทีฟกับภาพที่มีสีเหลือบ ก็จะพยายามชดเชย "สี" ให้มีการอมฟ้าน้อยลง ภาพที่จะได้ก็จะออกมาสีชมพูมากขึ้น
ลองดูจากภาพสุดท้ายก็ได้นะ ที่เป็นแถบสีน้ำเงินสลับกับสีอื่นๆ โดยด้านบนของภาพนั้น เรามักจะเห็นแถบสีน้ำเงินสว่างขึ้นกว่าปรกติ ขณะที่ด้านล่างของภาพนั้น เรามักจะเห็นแถบสีน้ำเงินเข้มขึ้นมืดขึ้น ทั้งที่ จริงๆ แล้ว แถบสีน้ำเงินนี้เป็นสีเดียวกันหมดทั้งภาพเลย